บทความ 4G อีกก้าวของเทคโนโลยีการสื่อสาร
เทคโนโลยี 4จี ( Forth Generation ) กำลังเป็นกระแสที่คนไทยหลายๆ
คนในยุคปัจจุบันให้ความสนใจ แม้ตอนนี้บ้านเราจะอยู่ในช่วงการพัฒนาเทคโนโลยี 3จี ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
แต่ก็มีการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยี 4จี ควบคู่กันไปด้วย
เทคโนโลยี 4จี เป็นเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงชนิดพิเศษ
โดยเป็นการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยี 3จี จึงมีคุณสมบัติที่สามารถตอบสนองการใช้งานสื่อสารไร้สายความเร็วสูง
ที่มีความเร็วตั้งแต่ 100 Mbps – 1024 Mbps (1Gbps) หรือเร็วกว่าเทคโนโลยี
3จี มากถึง 7 เท่า
สามารถเชื่อมต่อในรูปแบบ เสมือนจริงหรือ 3มิติ (three-dimensional)
ระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเอง
และสถานีฐานที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จากเครื่องหนึ่งไปยัง
อีกเครื่องหนึ่งสามารถส่งผ่านข้อมูลแบบไร้สายด้วยระดับความเร็วสูงที่เพิ่ม
สูงขึ้นถึง 100 Mbps เร็วกว่าปัจจุบันถึง 10 เท่า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สามารถชมโทรทัศน์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต
หรือพูดคุยผ่านระบบ Video Call ของโทรศัพท์ ได้อย่างคมชัด
ไม่กระตุกหรือดีเลย์ สามารถส่งไฟล์วิดีโอที่มีความละเอียดสูง รับชมการถ่ายทอดสด
แบบ Realtime การประชุมทางไกลแบบ Interactive ที่สามารถโต้ตอบแบบทันที บริการ cloud service สนับสนุนการเรียนผ่านทาง e-learning, การรักษาโรคทางไกล
(Telemedicine) รวมไปถึงการชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
ซึ่งอาจพลิกวงการธุรกิจด้านมัลติมีเดียและวีดีโอออนไลน์ในอนาคต
ปัจจุบันเทคโนโลยี 4จี มีการทดลองใช้แล้วในหลายประเทศในยุโรป ญี่ปุ่น จีน และสิงคโปร์
สำหรับไทยนั้นเพิ่งเริ่มมีการทดสอบโดยความร่วมมือของผู้ให้บริการเครือข่าย เอกชน
กสทช. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ซึ่งเป็นเพียงการทดสอบในเชิงเทคนิคชั่วคราว
โดยมิได้แสวงหากำไรผ่านการเปิดโอกาสให้ทั้งกลุ่มเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค พร้อมทั้งกลุ่มตัวอย่างของประชาชน
นักเรียนนักศึกษา ได้ทำการทดสอบด้วย ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการทดสอบในครั้งนี้
จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศของไทย ที่เรียกได้ว่าปัจจุบัน
ข้อดี
ช่วยทำให้การ Online ทุกที่ทุกเวลาด้วยระดับคุณภาพบริการ
Hi-speed เป็นไปได้ง่ายขึ้นและสะดวกขึ้นด้วยข้อดีของบริการดังนี้
1.
มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับเครือข่าย 3G ตลอดเวลาที่เปิดเครื่องโทรศัพท์
(Always On)
2.
การคิดค่าบริการจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเรียกใช้ข้อมูลผ่านเครือข่ายเท่านั้น
แตกต่างกับระบบทั่วไปที่จะเสียค่าบริการตั้งแต่ Login เข้าในระบบเครือข่าย
3. อุปกรณ์สื่อสารไร้สายมีรูปแบบอื่นๆ Plamtop, PDA, Laptop และ PC
4. รับส่งข้อมูลในความเร็วสูงรวดเร็ว ทำให้สามารถแสดงภาพกราฟฟิก
แสดงแผนที่ตั้งเป็นแบบอินเตอร์แอคทีฟ ได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด
ข้อเสีย
เป็นเครือข่ายที่ใหญ่มาก
มีบุคคลทุกเพศทุกวัย แทบทุกอาชีพที่ใช้งาน ข้อมูลที่สามารถใช้ได้กับบุคคลวัยหนึ่ง
อาจไม่เหมาะสมกับบุคคลอีกวัยหนึ่ง โดยเฉพาะเด็กภัยที่เกิดจากการติดต่อกับ แปลกหน้า
ซึ่งมีเจตนาที่จะหลอกลวงหรือต้อข้อมูลส่วนตัวของเราสื่อลามกอนาจาร
การพนันเข้าถึงผู้ใช้ได้ง่ายเป็นช่องทางของมิจฉาชีพ ล่อลวง ลักพาตัวจากการchat ทำให้เกิดการใช้ภาษาผิดๆได้จากการเล่นพูดคุย สื่อสารผ่านโปรแกรมสนทนาออนไลน์
ผลกระทบต่อสังคม
ปฏิวัติสังคมและวัฒนธรรม
การหลอมรวมเทคโนโลยีที่เกิดจากเทคโนโลยี 3G เกิดจากการพัฒนาขีดความสามารถในด้านความเร็วของการดาวน์โหลดข้อมูล (Capacity) และการพัฒนาขีดความสามารถด้านความเร็วในการเคลื่อนที่ (Mobility) ของอุปกรณ์สื่อสาร ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับ-ส่งข้อมูลข่าวสารและปฏิสัมพันธ์กันได้ในขณะเคลื่อนที่ ประกอบกับทำให้เกิดการหลอมรวมกันอย่างแนบแน่นระหว่างเครื่องคำนวณ (Computing devices) สื่อ (Media) และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จนทำให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงข้อมูลไม่ว่าข้อมูลจะอยู่ที่ใดในโลก และเปลี่ยนวิธีการสร้างสื่อ บริโภคสื่อ เรียนรู้และปฏิสัมพันธ์กันในขณะเคลื่อนที่ได้ตลอดเวลา จนเกิดพลังอำนาจของปัจเจคบุคคลอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยลักษณะของการสื่อสารในชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนไป ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม ในส่วนของสังคมได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นสังคมของผู้รับรู้ข่าวสารและผู้สร้าง ข่าวสารในเวลาเดียวกัน เกิดเครือข่ายสังคมออนไลน์ข้ามวัฒนธรรม หรือที่เรียกว่า Social Network ที่ผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์กันอย่างอัตโนมัติกับผู้คนได้ทั่วโลก สามารถรับส่งข่าวสารไปยังผู้รับโดยอัตโนมัติแบบ Real time ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางสังคมและวัฒนธรรมอย่างไม่มีขีดจำกัด ส่งผลให้ในอนาคตจะเกิดการหลอมรวมกันทางวัฒนธรรม จนเราไม่สามารถรักษาวัฒนธรรมและความเป็นเอกลักษณ์ของชาติได้อีกต่อไป
ปฏิวัติโลกธุรกิจ
การหลอมรวมเทคโนโลยีที่เกิดจากเทคโนโลยี 3G เกิดจากการพัฒนาขีดความสามารถในด้านความเร็วของการดาวน์โหลดข้อมูล (Capacity) และการพัฒนาขีดความสามารถด้านความเร็วในการเคลื่อนที่ (Mobility) ของอุปกรณ์สื่อสาร ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับ-ส่งข้อมูลข่าวสารและปฏิสัมพันธ์กันได้ในขณะเคลื่อนที่ ประกอบกับทำให้เกิดการหลอมรวมกันอย่างแนบแน่นระหว่างเครื่องคำนวณ (Computing devices) สื่อ (Media) และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จนทำให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงข้อมูลไม่ว่าข้อมูลจะอยู่ที่ใดในโลก และเปลี่ยนวิธีการสร้างสื่อ บริโภคสื่อ เรียนรู้และปฏิสัมพันธ์กันในขณะเคลื่อนที่ได้ตลอดเวลา จนเกิดพลังอำนาจของปัจเจคบุคคลอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยลักษณะของการสื่อสารในชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนไป ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม ในส่วนของสังคมได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นสังคมของผู้รับรู้ข่าวสารและผู้สร้าง ข่าวสารในเวลาเดียวกัน เกิดเครือข่ายสังคมออนไลน์ข้ามวัฒนธรรม หรือที่เรียกว่า Social Network ที่ผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์กันอย่างอัตโนมัติกับผู้คนได้ทั่วโลก สามารถรับส่งข่าวสารไปยังผู้รับโดยอัตโนมัติแบบ Real time ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางสังคมและวัฒนธรรมอย่างไม่มีขีดจำกัด ส่งผลให้ในอนาคตจะเกิดการหลอมรวมกันทางวัฒนธรรม จนเราไม่สามารถรักษาวัฒนธรรมและความเป็นเอกลักษณ์ของชาติได้อีกต่อไป
ปฏิวัติโลกธุรกิจ
การหลอมรวมเทคโนโลยีทำให้เกิดการแข่งขันของอุตสาหกรรมภาคการผลิตและการให้บริการ
ซึ่งแต่เดิมเคยแยกกันอยู่คนละตลาด แต่แล้วพัฒนาการอันรวดเร็วของเทคโนโลยี 3G
และอินเทอร์เน็ต ก็เป็นตัวเชื่อมโยงให้มาอยู่ในตลาดเดียวกัน
แข่งขันกัน และแม้กระทั่งรวมตัวกัน
ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน
ซึ่งนอกจากจะเป็นการลดความซ้ำซ้อนของการลงทุนได้แล้ว ยังนำมาซึ่งความสะดวกสบาย
ความหลากหลายของบริการทางเลือกที่เพิ่มขึ้น รวมถึงผลประโยชน์จากบริการใหม่ๆ ด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำและจะลดต่ำลงไปเรื่อยๆ
อย่างไม่คาดฝันมาก่อน จนทำให้เกิดโอกาสการทำธุรกิจใหม่ๆ
เกิดการสร้างงานใหม่ๆในตลาดธุรกิจใหม่อย่างมหาศาล
ดังนั้นหากภาครัฐไม่มีความชัดเจนที่จะนำเอาเทคโนโลยีสื่อสารเคลื่อนที่
บรอดแบนด์มาใช้เป็นเครื่องมือทางยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ ก็อาจทำให้ประเทศของเราสูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างรวดเร็วผลกระทบด้านภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ
มีตัวอย่างมากมายที่เทคโนโลยี 3G เป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงของชาติ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่BlackBerry (BB) ที่มีแนวโน้มที่จะเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงในระดับสากล เนื่องจาก BB มีขีดความสามารถในการเข้ารหัสและส่งข้อมูลออกนอกประเทศ ยากที่จะทำการตรวจสอบได้ ดังนั้น จึงเป็นช่องทางใหม่ของผู้ก่อการร้ายในการใช้เป็นเครื่องมือเพื่อก่อการ ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับของรัฐบาล และมีแนวโน้มที่จะมีการพัฒนาซอฟท์แวร์ให้มีความชาญฉลาดจนสามารถนำมาเป็น เครื่องมือโจมตีเซอร์ฟเวอร์ขององค์กรต่างๆ และยังสามารถสร้างองค์กรก่อการร้ายเสมือนบนเครือข่ายได้อีกด้วย นอกจากนี้ข้อมูลผู้ใช้ที่ถูกเก็บบันทึกไว้ในต่างประเทศ ซึ่งถือว่าอยู่นอกเหนือขอบเขตทางกฎหมายของประเทศ จึงยากที่หน่วยงานความมั่นคงจะนำมาใช้เพื่อหาผู้กระทำความผิด ดังนั้นหากภาครัฐขาดวิสัยทัศน์ในการใช้งานและการควบคุมอย่างสมดุล ก็จะส่งผลกระทบ
มีตัวอย่างมากมายที่เทคโนโลยี 3G เป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงของชาติ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่BlackBerry (BB) ที่มีแนวโน้มที่จะเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงในระดับสากล เนื่องจาก BB มีขีดความสามารถในการเข้ารหัสและส่งข้อมูลออกนอกประเทศ ยากที่จะทำการตรวจสอบได้ ดังนั้น จึงเป็นช่องทางใหม่ของผู้ก่อการร้ายในการใช้เป็นเครื่องมือเพื่อก่อการ ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับของรัฐบาล และมีแนวโน้มที่จะมีการพัฒนาซอฟท์แวร์ให้มีความชาญฉลาดจนสามารถนำมาเป็น เครื่องมือโจมตีเซอร์ฟเวอร์ขององค์กรต่างๆ และยังสามารถสร้างองค์กรก่อการร้ายเสมือนบนเครือข่ายได้อีกด้วย นอกจากนี้ข้อมูลผู้ใช้ที่ถูกเก็บบันทึกไว้ในต่างประเทศ ซึ่งถือว่าอยู่นอกเหนือขอบเขตทางกฎหมายของประเทศ จึงยากที่หน่วยงานความมั่นคงจะนำมาใช้เพื่อหาผู้กระทำความผิด ดังนั้นหากภาครัฐขาดวิสัยทัศน์ในการใช้งานและการควบคุมอย่างสมดุล ก็จะส่งผลกระทบ
อ้างอิง